ตอน เจ้าหมีโง่

writer : wakkks , rainstill , AatbWoo , Yochan , PaiPOPcoRn , Peachyhachi 
tag : #เดอะรูมเมท

—————

.

.

 

ณ ห้องพักขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโซล

เข้าสู่หน้าร้อนที่แสงแดดพากันแผดเผาผิวกายได้ง่ายๆ ถ้าเผลอได้ย่างกายออกไปเผชิญกับอากาศภายนอก ไม่พ้นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศให้ความเย็นอยู่ในห้องพักสี่เหลี่ยมแบบนี้เป็นแน่

“เมื่อไหร่คุณฮยองจะกลับบบบบบ”
เสียงร้องโหยหวยของเจ้าของแก้มป่องๆ ร้องโอดครวญพลางสะบัดตัวดิ้นไปมาอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่น
“ฮื่อออ หิวแล้วนะ” เสียงบ่นอู้อี้ดังตามมาอีกระลอกจากร่างหนาที่นอนเหยียดยาวฟุบหน้าลงกับหมอนบนพื้นห้องข้างๆ อีกคนที่ยังคงดีดดิ้นไปมาไม่หยุด

“เลิกบ่นกันสักทีเห่อะน่า”
เจ้าของดวงตาเรียวเล็กปรายหางตาลงไปมองสองร่างที่ยังคงนอนโอดครวญกันอยู่ไม่เลิก ปรายนิ้วเรียวกดพรมลงบนแป้นพิมพ์แล็ปท็อปที่วางเทินหมอนใบหนาอยู่บนตัก

“จุนโฮอา โทรตามคุณฮยองให้หน่อยสิ ฉันหิวไก่จะตายอยู่แล้วววว”
ไม่พูดเปล่า อูยองก็นอนดิ้นเร้าๆ อยู่บนพื้น ไม่อยากจะขยับตัวลุกไปไหน นี่ก็เปิดแอร์ปรับลดองศาให้ต่ำลงแล้ว มันก็ยังระอุไปด้วยความร้อนอยู่เลย ห้องใหญ่แบบนี้แอร์ตัวเดียวเอาไม่อยู่หรอกนะ

“ชานซองโทรหาคุณฮยองสิ”
ริมฝีปากอิ่มเอ่ยสั่งอีกคนที่ยังนอนฟุบหน้าลงกับหมอนบ่นงึมงำไม่เป็นภาษา ขณะสายตาก็ยังคงจ้องแต่หน้าจอแล็ปท็อปอยู่อย่างนั้น
“ฮื่อออ อูยอง นายก็ลุกไปโทรเองสิ”
ชานซองผงกหัวขึ้นมาพูดกับอูยอง แต่มีหรืออีกฝ่ายจะยอม

“นายนั่นแหละ ลุกไปเลยไอ้หมีเอ้ย”
พูดพร้อมกับถีบเท้าใส่อีกร่างยิกๆ เป็นตัวเร่งให้ชานซองลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์

“งื่อ ลุกแล้วๆ” จำใจลุกขึ้นเดินมึนๆ ไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตัวเล็กข้างโซฟาที่จุนโฮนั่งอยู่ หางตาเหลือบมองอีกคนที่ดูจะไม่สนใจสิ่งรอบตัวเลยนอกจากหน้าจอแล็ปท็อปตรงหน้าตัวเอง

“ฮัลโหลฮยอง”
กรอกเสียงลงไปตามสาย เมื่อสัญญาณรอสายเปลี่ยนมาเป็นเสียงนุ่มๆ ของผู้เป็นพี่ที่กดรับสายแล้ว

[ ว่าไงชานซอง ] เสียงเซ็งแซ่ดังตามสายมาให้ได้ยิน ฟังก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงกำลังยุ่งอยู่ในสถานที่ที่มีคนเยอะแน่ๆ
“ฮยองจะกลับตอนไหนอ่า”

[ อีกสักพักแหละ พอดีฮยองมีงานด่วน ฝากข้าวไปกับแทคแล้ว เดี๋ยวอีกไม่นานแทคก็คงถึงแล้วล่ะ ]
“อ่า…โอเคครับ ผมไม่กวนแล้ว”
ชานซองเอ่ยลาพี่ชายหน้าหวานก่อนจะกดวางสายแล้วเดินหน้าเนือยกลับมาทิ้งตัวลงนอนทับอีกร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น

“อ็อก! เฮ้ย ไอ้ชาน ลุกออกไปนะเว้ย!”
อูยองโวยวายทันทีหลังจากที่ชานซองเดินมาล้มตัวลงนอนทับเขาโดยไม่ดูขนาดตัวของตัวเองเลยสักนิด ตัวใหญ่ยักษ์อย่างกับหมีควายแบบนี้ทิ้งตัวลงมานอนทับเขาได้!

“อื้อออ”
ทำหูทวนลมครางงุ้งงิ้งก่อนจะมุดหน้าลงถูไถไปกับแผ่นหลังของพี่ชายแก้มป่องที่ตัวเขาไม่ค่อยจะได้เรียกพี่สักเท่าไหร่
“อูด้งอ่า ฉันหิวอ่า”
พูดมุบมิบอยูในลำคอก่อนจะงับบนหัวไหล่เล็กๆ จนอีกคนร้องโวยวาย

“เฮ้ย! ฉันไม่ใช่ของกินโว้ยยยยย ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”
พยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากอีกคน แต่ดูจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาเหลือเกิน ในเมื่อขนาดตัวมันต่างกันริบลับแบบนี้
“อย่ากัด! น้ำลายเว้ย สกปรก ไอ้บ้านี่นิ แล้วฮยองว่าไง”
พลิกตัวกลับมาหาร่างที่นอนกอดทับตัวเขาเป็นตุ๊กแกทากาวตราช้าง ยกมือขึ้นดันหน้าอิตาเลี่ยนมึนๆ ให้ออกไปห่างๆ แต่ชานซองก็พยายามมุดหน้าลงไปกับอกเขาซะอย่างนั้น แต่ถึงแม้จะพยายามผลักไสอีกคนให้ออกไปอย่างทุลักทุเลแค่ไหนก็มิวายถามถึงพี่ชายหน้าหวานที่ตนเพิ่งให้เจ้ามังเน่หน้าแก่นี่ลุกไปโทรหา

“ฮยองฝากข้าวมากับแทคฮยองแล้ว เดี๋ยวก็คงใกล้ถึงแล้วล่ะ”
เอ่ยตอบเสียงอู้อี้เมื่อฝังหน้าตัวเองลงกับอกแบนๆ ของอูยองนิ่ง
“เออ ลุกออกไปได้แล้ว ร้อนเว้ยร้อนนนนน”
อูยองร้องโวยวายเสียงดัง อากาศก็ร้อน ไอ้หมีนี่มันก็ยังมาทำให้รู้สึกอึดอัดอีก โว้ยย กูอยากจะบ้าตายกะละมังซักผ้าจริงๆ

กริบ…
ไร้เสียงตอบรับจากร่างหมีควายที่ยังคงนอนกอดตัวเขาเสมือนหมอนข้างนิ่ง…

“ไอ้ชาน จะลุกดีๆ ไหมห้ะ!” ดึงทึ้งผมอีกฝ่ายแต่ดูจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลยสักนิด ชักจะหมดความอดทน ปกติก็ยอมอยู่หรอกนะ แต่วันนี้อากาศมันร้อนกว่าทุกวัน อารมณ์ก็พาลจะเสียไปด้วย ยิ่งมีคนมาเกาะแกะแบบนี้ก็ยิ่งหงุดหงิด
ผัวะ!

“โอ้ยยย!”
ยังไม่ทันที่จะเริ่มแงะท่าไม้ตายตัวเองออกมาใช้ จู่ๆ ร่างของชานซองก็หลุดออกจากตัวเขาลอยละลิ่วออกไปจนเกือบจะชนตู้วางทีวีที่อยู่ไม่ไกล พอหันไปมองต้นตอของแรงมหาศาลที่จัดการร่างของน้องเล็กก็เห็นจุนโฮยืนหน้าบึ้งตึงเท้าสะเอวมองชานซองที่ตอนนี้ยังคงไม่ยอมลุกขึ้นมาเอาแต่ร้องครวญครางอยู่ที่เดิม สำออยชะมัดเลย

“จุนโฮอ่า ทำไมต้องรุนแรงใส่กันแบบนี้ด้วย”
“รำคาญ!” กระแทกเสียงตอบก่อจะหมุนตัวเดินกลับไปหยิบแล็ปท็อปที่ยังเปิดหน้าจอค้างไว้แล้วเดินกระแทกเท้าปึงปังกลับเข้าห้องตัวเองทันที ทิ้งให้สองชีวิตที่เหลือมองตามไปอย่างงงๆ

“ประจำเดือนมาไม่ปกติรึไงฟ่ะ” อูยองบ่นงึมงำก่อนจะกลิ้งตัวกลับไปนอนหนุนหมอนชานซองที่วางทิ้งไว้ ไม่สนใจอีกฝ่ายที่ยังนั่งจุ้มปุ้กอยู่ที่เดิมตั้งแต่โดนฝ่าเท้าของจุนโฮถีบเปรี้ยงออกไปก่อนหน้านี้

นั่นก็อีกคน สติเลื่อนลอยเหมือนคนไม่เต็มเต็งอีก

ชานซองยังคงนั่งมึนต่อไป ในขณะที่อูยองนอนกลิ้งไปกลิ้งมา ดวงตาเรียวมองเข็มนาฬิกาที่ขยับทุกๆวินาทีอย่างใจจดใจจ่อ แทคยอนฮยอง มาเร็วๆหน่อยเซ่ เขาหิวจะตายอยู่แล้ว!!

เสียงเคาะประตูทำให้อูยองกระเด้งตัวขึ้น พร้อมกับชานซองที่เหมือนว่าสติจะกลับมา คนตัวสูงรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที กลิ่นหอมของไก่ทอดลอยเข้าจมูกทำให้อูยองรีบวิ่งเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมจานชามให้พร้อม

“อ้าว มินจุนฮยอง ไหนบอกกลับดึก”
ชานซองเปิดประตูให้กว้างขึ้น พร้อมกับหลีกทางให้พี่ใหญ่เดินเข้ามาก่อน ตามด้วยแทคยอนที่แบกของพะรุงพะรังเข้ามา
“พอดีเสร็จธุระเร็วน่ะ เลยโทรให้ไอ้แทคมันมารับ แล้วจุนโฮอยู่ไหนล่ะ”
คนเป็นพี่เอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาแล้วไม่เห็นร่างของรุ่นน้องตาตี่ขี้โวยวาย

“หงุดหงิดไอ้ชานเข้าห้องไปแล้ว” อูยองที่กำลังพยายามแย่งถุงไก่จากแทคยอนอยู่ในครัวเอ่ยตอบ
“โอ้ย! ฮยอง ผมหิวจะตายอยู่แล้ว อย่าแกล้งกันเซ่!”

“ไม่ได้จะแกล้ง! ถุงที่มึงแย่งอยู่นี่มันถุงไอศกรีมโว้ย กูจะเอาไปแช่ตู้เย็น!!!”
มินจุนหัวเราะพรืดก่อนจะเดินตรงไปเคาะประตูห้องของจุนโฮเบาๆ เจ้าของห้องขานรับแต่ไม่เปิดประตู ทำให้คนเป็นพี่หงุดหงิดเล็กน้อย

“จุนโฮ! ออกมากินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวเย็นหมดไม่อร่อยกันพอดี”
“แล้วคุณฮยองไม่กลับมากินพร้อมกันเหรอครับ”
ชานซองเอ่ยถามถึงพี่ชายที่แสนดีของเขา พร้อมกับเงยหน้ามองมินจุนและจุนโฮที่พึ่งเดินออกมาจากห้อง ดวงตาเรียวสบกับดวงตาคมแวบหนึ่งก่อนที่คนตัวเล็กจะเป็นคนเสหลบ

“อะไร สองคนนี้โกรธกันมากรึไง” มินจุนว่าเบาๆ
“ไอ้คุณบอกให้กินไปก่อนเลย เห็นว่าเดี๋ยวอูยองจะหิวตายซะก่อน” แทคยอนเป็นคนตอบคำถามของชานซอง น้องเล็กสุดพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้

ชานซองทรุดตัวลงนั่งหัวโต๊ะ ถัดมาทางขวาคือมินจุน จุนโฮ หัวโต๊ะอีกฝั่งคืออูยอง ตามด้วยแทคยอนที่นั่งอยู่คนเดียวติดกับชานซอง
บรรยากาศบนโต๊ะเงียบผิดปกติ มินจุนที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเด็กสองคนเริ่มที่จะทำตัวไม่รู้ จุนโฮทำตัวเหมือนปกติ มือเรียวยื่นออกไปใช้ส้อมจิ้มน่องไก่ พร้อมกับชานซองที่ดูเหมือนจะเล็งน่องชิ้นนั้นไว้เหมือนกัน เกิดสงครามประสาทกลางโต๊ะอาหารโดยมีพี่ใหญ่นั่งคั่นพร้อมกับน่องไก่ที่เป็นตัวประกัน
มินจุนสบตากับแทคยอนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ส้อมที่อยู่ในมือของคนตัวสูงตีลงบนส้อมของชานซองและจุนโฮแรงๆ

“ย่าห์!!! ชิ้นนี้ของฉัน!”
ดวงตาเรียวตวัดมองแทคยอนทันที ริมฝีปากเผยอขึ้นทำท่าจะเถียง แต่พอเห็นว่าชานซองยอมถอนทัพตัวเองก็เลยเลือกจะไปจิ้มชิ้นอื่นแทน
“ถ้ายังเป็นแบบนี้แล้วคุณฮยองกลับมาเจอ รู้ใช่มั้ยว่าจะเป็นยังไง”
อูยองที่นั่งแทะไก่เงียบๆพูดขึ้นลอยๆ จุนโฮนั่งหลังตรง ไม่ต่างจากชานซองที่นั่งตัวแข็งทื่อ

“อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปีแล้ว ทะเลาะกันเป็นเด็กๆไปได้” มินจุนว่าพร้อมกับส่ายศีรษะไปมา
เสียงเปิดประตูแสดงถึงการมาของใครบางคนทำให้บรรยากาศบนโต๊ะกลับมาเงียบอีกครั้ง
“คุณฮยองงงงงง ผมเหลือไก่ไว้ให้ครับ” อูยองรีบอ้อนพี่ชายหน้าหวานทันที ฝ่ายนิชคุณที่พึ่งมาถึงก็ยิ้มรับเดินไปวางกระเป๋าบนโซฟา ก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆแทคยอน

“โอ้ย!” จู่ๆชานซองที่นั่งอยู่หัวโต๊ะก็ร้องออกมา มินจุนหันขวับไปมองด้วยความตกใจ เห็นว่าดวงตาคมจ้องจุนโฮเขม็งก็พอจะเข้าใจ เจ้าของดวงตาตี่ฉีกยิ้มหวานให้กับน้องเล็กที่กำลังกุมเท้าของตัวเองอยู่ใต้โต๊ะ ชานซองกัดฟันแน่น ฝากไว้ก่อนเถอะอีจุนโฮ!!!

“อุ่ย เจ็บหรอชานซอง โทษทีนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
จุนโฮยิ้มมุมปากเชิงเยาะเย้ย การกระทำสวนทางกับคำพูดเห็นๆ
“อีจุนโฮ มันจะมากเกินไปแล้วนะ นายเป็นอะไร ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
ชานซองเริ่มขึ้นเสียงนิดๆ เขาอดทนไม่ได้ทุกเรื่องหรอก มั่นใจว่ายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แล้วอยู่ๆมาเหวี่ยงใส่ทำไม ให้ตายเถอะ

มินจุนทำหน้าเลิกลั่ก เอาแล้วววว เอาแล้วเว้ยยยย ชานซองมันตบะแตกแล้ววว คิมเพลียยยยยย ทำไงดีฟะ ทำไมไอ้เด็กสองคนนี้มันต้องทะเลาะกันกับอีแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆด้วย ไม่เข้าใจ คิมไม่เข้าจายยยยย

แทคยอนเหมือนรู้ว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาเอือมมือไปบีบมือมินจุนเบาๆเหมือนจะบอกประมาณว่าเดี๋ยวจัดการเอง ก่อนที่มันจะเหตุการณ์มันจะมาคุกว่านี้

“อีจุนโฮ ฮวางชานซอง!!!” แทคยอนยังไม่ทันจะจัดการอะไร เสียงของหนุ่มหน้าหวานก็ดังขึ้นมาซะก่อน
“…”

อูยอง มินจุนและแทคยอน ได้แต่เงียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะรู้ว่านิชคุณไม่ชอบเวลาเห็นคนในหอทะเลาะกัน อีกอย่างตอนนี้ออร่าดาร์กของเขามันก่อตัวขึ้นมาแล้วล่ะ

“…”
ชานซองกับจุนโฮก็ได้แต่เงียบเช่นกัน แต่สายตาของทั้งคู่ต่างมองกันแบบไม่มีใครยอมใคร คนนึงก็มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด อีกคนก็หงุดหงิดที่เห็นภาพบาดตาแบบนั้น

“พวกนายสองคนทะเลาะอะไรกัน ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ชอบให้คนในหอทะเลาะกัน” นิชคุณเริ่มถามชานซองกับจุนโฮ
“ก็มัน../ก็ไอ้นี่.. เฮ้ย! นายแย่งฉันพูดทำไมวะจุนโฮ”

“นายนั่นแหละที่แย่งฉันพูด แถมยังไม่รู้ตัวอีกว่าทำอะไรผิด ฉันเกลียดคนอย่างนายที่สุดเลยโว้ย!!!” จุนโฮตะเบ็งเสียงใส่ชานซอง แล้วก็วิ่งเข้าห้องของตัวเองอีกครั้ง

ปัง!!! หลังจากสิ้นเสียงประตู ทุกอย่างก็เงียบกริบ

“ย๊าห์! จุนโฮ นายกลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิโว้ย”
มินจุน ไม่รอช้า รีบวิ่งตามน้องชายขี้เหวี่ยงไปทันทีตามด้วยแทคยอน แต่เหมือนจะไม่ทัน จุนโฮล็อกห้องเรียบร้อย ทำให้มินจุนกับแทคยอนต้องเกลี้ยกล่อมอยู่นาน แต่ไม่เป็นผล ทั้งสองคนเดินคอตกกลับมานั่งที่โซฟา

“นี่มันวันอะไรของฉันกันวะเนี่ย โดนเจ้านายด่าจากที่ทำงานไม่พอแล้วยังต้องมาเจอพวกนายทะเลาะกันอีก ไม่เบื่อหรือไง สามวันดีสี่วันทะเลาะกันอีกล้ะ” นิชคุณถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินไปนั่งโซฟา
“ฮยองงงงงงงงง อย่าเครียดสิ เดี๋ยวแก่เร็วน้า~” ไม่รอช้า อูยองก็เดินมานั่งข้างๆนิชคุณ พลางเอาหน้าถูแขนนิชคุณไปมา นิชคุณอมยิ้มเล็กน้อยก่อนลูบหัวอูยองอย่างเอ็นดู

อูยอง…ขอบคุณนะ นายอยู่ข้างฉันเสมอเลย
ฮยอง…อูยองเป็นห่วงคุณฮยองนะรู้มั้ย อยากให้ฮยองยิ้มเยอะๆเลย อย่าเครียดนะ อูยองแค่อยากให้คุณฮยองอารมณ์ดี

สายตาคมมองไปทางประตูห้องที่ปิดสนิทและมองนิชคุณกับอูยองนิ่งๆ

อูด้ง…ฉันก็มีเรื่องเครียดเหมือนกันนะ ฉันเพิ่งทะเลาะกับไอ้บ้าจุนโฮ อูด้ง ฉัน…

“จริงๆเล๊ย ไอ้จุนโฮจะโกรธอะไรจริงจังขนาดนั้นนักวะ ชานซอง ฉันถามจริงเหอะว่านายไปทำอะไรให้จุนโฮโกรธน่ะ”
เสียงของพี่ใหญ่ที่สุดในหอได้เอ่ยขึ้นมา หลังจากทนความมาคุไม่ไหว คิมไม่ชอบบรรยากาศมาคุอ้ะ คิมไม่ชอบบบ

“ฮยอง ผมมั่นใจเลยนะว่าผมยังไม่ได้ทำอะไรจุนโฮมันเลย ผมแค่นอนทับอูด้งเล่นๆเฉยๆ แล้วอยู่จุนโฮมันก็เดินมากระชากผมอย่างแรง แล้วก็ปึงปังๆอย่างที่ฮยองเห็นนี่แหละ ไม่รู้เป็นบ้าอะไรของมัน” ชานซองระเบิดอารมณ์สาธยายออกมาอย่างเหลืออด ก็จุนโฮมันไม่มีเหตุผลนี่หว่า

“ไอ้ชาน นายจะมาทับฉันทำไมก็ไม่รู้ ตัวยังกับยักษ์ แถมเอาน้ำลายมาโดนตัวอีก ยี๋”
อูยองพูดไปด้วยทำหน้าเบะอังอังเหมือนจะร้องไห้ไปด้วย “คุณฮยอง ผมไม่ชอบเลย ชานซองน่ะขี้แกล้งคนแถมยังชอบตีหน้ามึน” อูยองได้ทีรีบฟ้องนิชคุณ เขายิ้มขำ ยิ่งเห็นหน้าขี้อ้อนทำแก้มป่องแบบนี้แล้วหมั่นเขี้ยว เลยบีบจมูกน้อยๆของอูยองเบาๆ

“ชานซองอ่า นายไม่รู้จริงๆสินะ เด็กน้อย”
นิชคุณเอ่ยขึ้นมา นิชคุณรู้อยู่แก่ใจว่าทำไมจุนโฮถึงทำแบบนี้กับชานซอง แม้ว่าเขาเองจะไม่เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่แรกก็เถอะ แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะหงุดหงิดมากกว่าที่จะมารู้อะไรแบบนี้ ก็หมอนี่มึนจะตาย

“แล้วทีนี้จะทำยังไงต่อล่ะ แลจุนโฮจะโกรธจริงจังนะ ง้อยากนะโว้ยไอ้ชาน” แทคยอนได้ทีเตือนสติน้องชาย
“ผมไม่เห็นอยากจะสนเลยฮยอง ปล่อยไปเถอะ เดี๋ยวก็กลับมาคุยเองแหละ”
ชานซองยักไหล่แบบไม่แคร์ โกรธก็โกรธไปดิ ไม่ง้อให้เสียเวลาหรอก คนอะไร เหวี่ยงได้ทุกเรื่อง ไม่มีเหตุผล

“ย๊าห์ นายทำยังงี้ไม่ได้หรอกชานซอง ไปขอโทษจุนโฮซะ ถึงนายจะบอกว่านายไม่ผิด แต่ขอโทษก่อนไม่เสียหายหรอกน่า ยังไงนายกับจุนโฮก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กไม่ใช่หรอ จะให้มาแตกด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้เนี่ยนะ”
ผู้อาวุโสที่สุดในหอบ่นออกมายาวเหยียด ก็คิมอยากให้เด็กๆมันเคลียร์กันให้รู้เรื่องง่ะ ชีวิตคิมจะได้ปกติสุขซักที คิมบ่ซ่ำบายใจ

“ทำตามที่มินจุนฮยองบอกนั่นแหละชานซอง ถึงเฮียแกจะขี้บ่นมากไปหน่อย แต่ก็พูดเรื่องจริงนี่หว่า โอ้ย! มินจุนฮยอง ตีผมทำม๊ายยยยย”
แทคยอนถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อเจอฝ่ามือพิฆาตเข้าให้
“หุบปากไปเถอะอ๊คแทคยอน ถ้านายไม่พูดก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ ฉันแค่จะเตือนน้องมันโว๊ย ฮ่วย เซ็งคัก เซ็งหลาย เซ็งเด้เซ็งงงงง”
มินจุนโวยวายก่อนจะเอามือฟาดแทคยอนอีกหลายรอบ

“อ๊ากกกกกกก ทำไมรุนแรงกับผมนักนะฮย๊องงงง ยอมแล๊ววววว”

คนแบบจุนโฮ จะต้องง้อยังไงล่ะ นี่ผมไม่ใช่คนผิดแต่ก็ต้องง้อสินะ ก็ได้ ง้อก็ง้อ…

ตัดสินใจได้แบบนั้น เด็กร่างยักษ์ก็เดินดุ่มไปยังห้องของคนตาเล็กที่อารมณ์ขี้แปรปรวน แม้ในใจจะถือทิฐิไม่อยากง้ออีกฝ่ายแค่ไหน ทว่าคำแนะนำของรุ่นพี่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนก็ไม่ควรมองข้าม

เขารู้ว่าจุนโฮเป็นคนเอาแต่ใจ ขี้เหวี่ยง แล้วก็ไม่มีเหตุผล แต่ก็ยังคบเป็นเพื่อนมาได้จนถึงทุกวันนี้ บางทีชานซองก็สงสัยตัวเองอยู่ไม่น้อยว่าทำไมถึงทนมาได้ตั้งนมนานหลายปี โดยที่อารมณ์ไม่เคยขาดผึงใส่จุนโฮจริงๆ จังๆ ไปสักที อย่างดีก็แค่โกรธกันนิดหน่อยแล้วก็ต้องเป็นฝ่ายไปง้อทุกที
ง้อไม่กี่ครั้งก็ไม่เท่าไหร่ แต่พักหลังมาก็ต้องตามง้ออยู่ตลอดจนชักคิดว่าจุนโฮเริ่มจะเคยตัว โกรธอย่างไม่มีเหตุผลก็ว่าแย่แล้ว นี่ยังต้องให้ยอมให้อีกแค่ไหนถึงจะพอใจ?

เห้อ…

ชานซองถอนหายใจแรงขณะที่มือเคาะประตูห้องไปด้วย

“จุนโฮ” น้องเล็กของวงส่งเสียง จากเสียงปกติเป็นดังขึ้นเพื่อให้คนข้างในได้ยิน
“นี่ เปิดประตูหน่อย” ทั้งเคาะทั้งเรียก จนกระทั่งในที่สุด อีจุนโฮก็ยอมมาประประตูให้

“มีอะไร?” แม้จุนโฮจะมีดวงตาเรียวเล็กแค่ไหน ชานซองก็ยังรู้ว่าคนที่กำลังเผชิญหน้าเอาแต่มองเขาด้วยดวงตาขวางอย่างไม่สบอารมณ์
ล้มเลิกไม่ง้อเสียดีไหมเนี่ย?

“ถามจริงนะ นายเป็นไรเหรอ? จู่ๆ ก็หงุดหงิด”
ร่างสูงถามออกไปตรง ๆ แม้พี่มินจุนจะบอกให้เขาขอโทษให้เรื่องจบ ๆ ไปซะ ทว่าชานซองก็ยังอยากรู้เหตุผลอยู่ดี แม้จะทำใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่าอาจจะไม่ได้เหตุผลอะไรตอบกลับมา

“ใครหงุดหงิด? คิดไปเองรึเปล่า”
“……” ถูกยอกย้อนกลับมาแบบนี้ก็ไปต่อไม่ถูก

“ตกลงมีอะไรอีกมั้ย?”
“……”

“ถ้าไม่มีงั้นก็ถอยออกจากประตูห้องซะ! ฉันจะนอนแล้ว แล้วก็เลิกกวนซะที ไอ้งี่เง่า”
รู้สึกเหมือนสติขาดผึงที่เป็นฝ่ายถูกจุนโฮใส่อารมณ์อยู่ฝ่ายเดียว ทั้งที่ตั้งใจจะมาพูดดี ๆ ด้วยแท้ ๆ แต่ก็กลับถูกว่าถูกไล่เสียนี่

“ใครว่าไม่มีอะไร?”
ชานซองส่งเสียงอย่างไม่พอใจ ใบหน้าที่มักจะง่วงเหงาหาวนอนเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง อุ้งมือใหญ่พลางดันประตูห้องของจุนโฮไว้ก่อนที่จะถูกปิดใส่หน้า
มาถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ฮวางชานซองยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ได้ยังไงกันล่ะ

“เอามือออกไปเลยฮวังชานซองงงงง”
มือเล็กพยายามดันประตูห้องให้ปิดลง หากแต่แรงอันมหาศาลของอีกฝ่ายกลับทำให้ประตูห้องเปิดออกอย่างแรง ก่อนที่ชานซองจะแทรกกายเข้ามาในห้อง ใช้เท้าถีบให้ประตูห้องปิดลงและล็อกห้องให้แน่นหนา จุนโฮเดินถอยหลังออกห่างชานซองไปเรื่อยๆ ดวงตาเล็กฉายแววหวาดหวั่น ก็จะไม่ให้หวั่นได้ยังไงก็แววตาของชานซองที่จดจ้องมามันไม่เหมือนเดิม

“เรามาเคลียร์กันหน่อยดีไหม อีจุนโฮ”
ร่างสูงเปิดปากพูดทลายความเงียบที่แสนอึดอัด

“ตกลงนายหงุดหงิดเรื่องอะไร ฉันทำอะไรไม่ดีหรือยังไง?”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้หงุดหงิด หูหนวกหรือไง?”
เขาไม่ยอมแพ้หรอก ไม่ยอมบอกหรอกว่าหงุดหงิดเรื่องอะไร ก็จะให้บอกได้ยังไงว่าเขาหึง หวง ชานซองมากแค่ไหนเวลาเข้าใกล้อูยอง จะให้บอกได้ยังไงว่าเขาเป็นอย่างนี้เพราะความรู้สึกที่เขามีให้ชานซองนั้นมากเกินกว่าเพื่อนคนหนึ่งเสียแล้ว

“นายรู้ไหม ความเป็นเพื่อนของเราที่มีมานานทำให้ฉันรู้ว่าคนอย่างอีจุนโฮโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย แววตาและสีหน้าของนายมันฟ้องนะ”
ชานซองยิ้มออกมาบางๆ เมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเล็กของคนนั้นแสดงอาการออกมาเสียโจ่งแจ้ง

“ทีนี้จะบอกฉันได้หรือยังว่านายหงุดหงิดฉันเรื่องอะไร บอกมาเถอะน่า ฉันยินดีจะปรับปรุงแก้ไข”
“ก็บอกว่าไม่ได้หงุดหงิดไงเล่า จะบีบคอฉันให้ตายฉันก็ยังยืนยันคำเดิมว่าฉันไม่ได้หงุดหงิด”
จุนโฮพูดพลางพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด

“ออกไปซะ ชานซองฉันเหนื่อยฉันจะนอน”
“ให้ตายเถอะจุนโฮ นายจะไล่ฉันอีกกี่ครั้งกัน ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้เคลียร์กับนายฉันจะไม่มีวันก้าวเท้าออกจากห้องนี้แน่ๆ”

“งั้นนายก็เชิญอยู่ในนี้ไปล่ะกัน ฉันจะไปนอนกับพี่มินจุน”
จุนโฮเดินชนไหล่ชานซองไปที่ประตู แต่ยังไม่ทันที่จุนโฮจะหมุนลูกบิด มือหนาก็กระฉากร่างเล็กกลับมาก่อนจะใช้แขนแกร่งโอบเอวบางไว้เสียจนแน่น
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะชานซอง”
ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากอ้อมแขนนั้นได้เลย ให้ตายเถอะแมร่งเป็นคนป่ะว่ะเนี่ย

“รู้อะไรไหม ที่ฉันไม่เคยโมโหไม่ใช่ว่าฉันโมโหไม่เป็นหรือว่าฉันใจเย็นหรอกนะ แต่ถ้าฉันโมโหแล้วฉันมักจะขาดสติ มักจะทำอะไรแย่ๆลงไปโดยไม่รู้ตัว และตอนนี้นายกำลังยั่วโมโหฉันอยู่ด้วยการที่นายทำตัวเหมือนว่าฉันทำผิดอะไรร้ายแรงโดยที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด ถามจริงที่นายโกรธฉันเนี่ยเพราะอะไร”
จุนโฮก้มหน้างุดไม่สบตาชานซอง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าชานซองน่ะโมโหร้ายแค่ไหน แต่จะให้เขาตอบคำถามของชานซองยังไง จะตอบยังไงดี

“ตกลงนายเป็นอะไรกันแน่ จุนโฮ”
ชานซองก้มหน้าลงมาถามพอดีกับที่จุนโฮเงยหน้าขึ้นมาสบตาชานซอง ดวงตาเล็กจดจ้องดวงตาคม ก็ยังดี ก็ยังดีที่ในแววตาของชานซองตอนนี้มีเงาของเขาอยู่ในนั้นไม่ใช่เงาของอูยอง
“ให้ฉันลองเดาดีไหม เดาแบบไม่เข้าข้างตัวเองล่ะกัน ที่นายเป็นแบบนี้ เพราะนายชอบฉะ….”

“ฉันชอบพี่คุณ”
คำตอบของจุนโฮทำให้ดวงตาคมเบิกโพล่งด้วยความตกใจ ฝ่ายจุนโฮเองก็ตกใจเหมือนกันที่เขาเลือกที่จะตอบชานซองไปอย่างนั้น แรงกดดันจากชานซองทำให้จุนโฮต้องทำแบบนั้น แขนแกร่งปล่อยออกจากเอวบาง แต่ก็ยังไม่ละสายตาไม่จากร่างเล็ก

“นาย…ชอบพี่คุณงั้นเหรอ?”
ชานซองทวนคำตอบของจุนโฮอีกครั้ง คำตอบของจุนโฮทำให้ชานซองรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรหมุนๆวนๆอยู่ในหน้าอก จุกเสียดขึ้นมา คงเป็นเพราะ..กินข้าวไม่ตรงเวลาแน่ๆ

“ใช่ ฉันชอบพี่คุณ ชอบ..มานานแล้วด้วย”
ร่างเล็กเลือกที่จะปล่อยเลยตามเลย แต่เมื่อได้เห็นแววตาของชานซองที่จดจ้องมาที่เขาแล้ว ทำให้จุนโฮรู้สึกว่าตัวเองได้ทำพลาดไป ทำไมกันนะชานซองถึงได้มองเขาด้วยแววตาที่ผิดหวังในตัวเขาขนาดนั้น ทำไม..ชอบทำให้เขาคิดเข้าข้างตัวเองอยู่เรื่อย

“อ้อ ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมนายถึงต้องโมโหฉัน ทำไมไม่โมโหพี่คุณหรือคนอื่น”
“ก็เพราะนายเป็นเพื่อนซี้ฉันไง ฉันหงุดหงิดใส่นายได้คนเดียวโดยที่นายไม่โกรธ ขอโทษนะที่มันจะทำให้นายไม่พอใจฉัน ต่อจากนี้ฉันจะพยายามไม่เหวี่ยงใส่นายล่ะกันนะ จบนะ นายออกไปได้แล้วฉันง่วง”

จุนโฮดันร่างสูงที่ยืนมึนๆงงๆออกไปจากห้อง ก่อนจะปิดประตูไล่หลังด้วยความรวดเร็ว แผ่นหลังบางไถลไปตามประตูไม้สีขาวนั่งลงที่ที่พื้นปาดน้ำตาของตัวเองเบาๆ สะกดกลั้นก้อนสะอื้นไม่ให้เกิดเสียงให้คนที่ยืนอยู่ที่ฟากของประตูได้ยิน กี่ครั้งแล้วนะที่เขาต้องร้องไห้เพราะชานซอง กี่ครั้งแล้วที่ชานซองไม่เคยรับรู้

หรือว่าบางทีเขาควรจะตัดใจจากชานซองเสียที บางทีความเจ็บที่มีอยู่นี้อาจจะเบาบางลงก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมาจุนโฮก็ไม่เคยตัดใจ
จากชานซองได้เลย ทำไมความรู้สึกนี้ถึงได้ฝังรากลึกเสียจนจะถอนจะดึงออกมาเลยไม่ได้ ไม่เคยเข้าใจเลยจริงๆ
เขาไม่เคยเข้าใจความรักเลยจริงๆ

—————————

“เป็นไรว่ะชาน ทำไมนิ่งจัง”
แทคยอนเอ่ยทักน้องชายตัวเองที่เอาแต่ยืนเหม่อ เจ้าของผิวสีแทนพึ่งเดินออกมาจากห้องครัวในมือมีกระป๋องเบียร์ทั้งสองข้างเพราะกะว่านั่งจิบเบียร์ดูหนังสบายๆซักหน่อย แต่มาเจอน้องชานหน้าหมียืนเอ๋ออยู่หน้าห้องจุนโฮซะก่อนเละทักออกไป และคำตอบที่ได้รับก็คือนิ่ง.. เงียบ..

เป็นอะไรของมันว่ะ..

“เห้ยไอ่ชาน ละเมอรึไง”
ยกเบียร์เย็นๆขึ้นแนบข้างแก้มจนชานซองสะดุ้ง สติไหลวนกลับเข้าร่าง หน้าหวานๆของจุนโฮเมื่อกี้กลายมาเป็นหน้าตาเข้มๆของแทคฮยองทันที

“เห้ยย..!! ตกใจหมด ทำไรเนี่ย”
“กูกำลังจะดูหนัง”
ยกพร็อบในมือขึ้นโชว์พลางยื่นให้เป็นการชักชวน ชานซองนิ่งไปซักพักแต่ก็ยอมรับมาแต่โดยดี ทั้งคู่พาร่างกายอันใหญ่โตไปนั่งบนโซฟากลางห้องนั่งเล่น แทคยอนจัดการเปิดแผ่นหนังที่ตัวเองพึ่งได้มา

“แทค”
“หืออ..”

“เคยรู้สึกแบบ..”

จู่ๆน้องชายตัวดีก็โพลงถามออกมาท่ามกลางความเงียบมีเพียงเสียงงึมงับจากไตเติ้ลหนัง แสงทีวีส่องสว่างทำให้เห็นสีหน้าของชานซอง มักเน่ที่ปกติจะสดใสร่างเริงอยู่ตลอดเวลา เวลานี้กลับมีเพียงแววตาที่ยากจะคาดเดา แต่ก็ดูได้ไม่ยากว่าชานซองกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ

“แบบ..?”

“แบบ..ไม่รู้ว่ะ แปลกๆ..”
“ยังไงละ ลองอธิบายมา”

“มัน..เหมือนไม่ค่อยชอบใจ..ไม่ดิ มัน..โอ้ย ไม่รู้ว้ะ”
หมีตัวโตฮึดฮัดคิ้วขมวดกันเป็นปม เปิดกระบ๋องเบียร์ขึ้นกระดก ปล่อยให้รสชาติเฝือนๆไหลลงคอช้าๆโดยที่ไม่พูดอะไรต่อ แทคยอนทำได้แค่มองเพราะชานซองเป็นอะไรเขาไม่ไม่สามารถเข้าใจได้ สายหน้าน้อยๆ ยกมือกระดกเบียร์ตามพลางหันไปสนใจหนังที่กำลังจะเริ่ม

“จุนโฮแม่ง..”
“หือ..?”

แต่ทว่าจดจ้องกับหน้าจอทีวีได้ไม่ถึงห้านาที เสียงบ่นงุบงิมเหมือนหมีขาวคำรามในลำคอก็ทำให้เขาต้องละสายตาออกจากหนังอีกครั้ง

“โดนพวกฮยองเอาแต่ใจจนเคยตัวละสิ..”
“บ่นไรว้ะชาน?”

“ช่างเถอะ”
“เป็นอะไรพวกแกสองคน ทะเลาะกันงุ้งงิ้งๆยังกะแฟน ชอบจุนโฮมันรึไง”

ฉึก..
แอลกอฮอลในปากแทบจะพุ่งย้อนออกมา พูดมาได้ไงว่าเขาชอบจุนโฮ เหอะ.. ไม่มีทาง ถ้าเป็นไอ่ก้นงอนนั้นก็ว่าไปอย่าง แต่เจ้าตัวชอบพี่คุณนี่..

“ผมไม่มีทางชอบรูมเมทตัวเองหรอกนะ ทุเรศ..”

แกร่ก..
เสียงเปิดประตูดึงความสนใจของพี่น้องร่างยักษ์ทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี จุนโฮเดินออกมาจากห้องเพราะบังเอิญลืมโน้ตบุ้คตัวเองเอาไว้แต่กลับได้ยินประโยคประโยคหนึ่งเข้าซะก่อน..

อ๋อ.. ชอบรูมเมทตัวเองมันทุเรศสินะ..

ดวงตาเรียวแดงก่ำเล็กน้อย ปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น คนตัวเล็กสาวเท้าเอื่อยๆเดินผ่านหน้าชานซองโดยไม่หันไปมองก่อนจะหยิบโน้ตบุ้คของตัวเอง

“จุนโฮ เป็นอะไร ทำไมตาแดงๆ..”
แทคยอนทักขึ้นมาเพราะเห็นท่าทีแปลกๆ แถมยังเดินก้มหน้าก้มตาอีกต่างหาก

“เปล่าครับ ผมนอนก่อนนะแทคฮยอง”
“อ๋อ..อาๆ”
ฝืนยิ้มจางๆส่งไปให้ แต่แน่นอนว่าไม่ได้หันไปมองผู้ชายร่างหมีที่นั่งอยู่ด้วยกันซักนิด คนตัวเล็กหายเข้าไปในห้องอีกครั้ง ชานซองนั่งนิ่ง.. ในหัวมีเรื่องมากมายอยู่เต็มไปหมด ทำไมจุนโฮดูตาแดงๆ..

“แกสองคนทะเลาะอะไรกันรุนแรงรึป่าวเนี่ย..”
“ไม่นิครับ..”

จุนโฮแค่อกหักจากคุณฮยองแหละน่า..

เหอะ..
อ่อนหัด..

แค่นี้ถึงกับต้องร้องไห้เลยหรอ ชอบเขาก็บอกเขาไปสิว้ะ มาทำตัวอ่อนแอเหวี่ยงใส่ชาวบ้านไปเรื่อยแบบนี้ได้ยังไง คิดได้แบบนั้นก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แทคยอนชายตามองตามด้วยความแปลกใจ

ชานซองสาวเท้าไปหน้าห้องคนตัวเล็ก ออกแรงเคาะประตูเป็นรอบที่สองของวัน มือหนาลองบิดลูกบิดประตูดูและก็พบว่ามันไม่ได้ล็อค คงจะลืม..

“ชานซอง..! เข้ามาทำไมอีก..”
คนตัวโตไม่ได้สนใจว่าจุนโฮจะมีท่าทียังไง ปิดประตูห้องช้าๆพลางหันมายืนประจันหน้ากับร่างเล็ก

“ชอบพี่คุณก็บอกเขาไปสิ ไม่ใช่มานั่งร้องไห้แบบนี้ ไม่ต้องมาเหวี่ยงใส่ฉันด้วย”
“ก็บอกแล้วไงว่าคราวหลังฉันจะไม่เหวี่ยงใส่นายแล้ว ออกไป”

“ก็ไปบอกพี่คุณสิ พี่เขาจะได้รู้ นายจะได้ไม่ต่องมายุ่งกับฉันอีกไง”
“นายจะมาบังคับให้ฉันไปบอกพี่คุณไม่ได้นะ..”
จุนโฮเริ่มไม่สบอารมณ์ ยังจะไล่ให้เขาไปบอกชอบพี่คุณอีกเนี่ยนะ.. ใจร้ายชะมัด..

“ฉันบอกให้ไปก็ไปสิ”
และก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้ชานซองติดสินใจรั้งข้อมือบางเข้ามาก่อนจะลากไปที่ประตู

“อ้ะ..ปล่อยนะ! นายพาฉันไปไหน!”
“ไปบอกชอบพี่คุณไง..”

“บ้าหรอ! ไม่ไปนะ! ชานน!”
ดวงตาเรียวเบิกกว้างพยายามยื้อตัวเองไว้ แต่เพราะแรงที่น้อยนิดจะไปสู้กับหมีขาวตัวโตได้ยังไง

ทำไมต้องไล่ให้ไปบอกชอบพี่คุณด้วย จะยัดเยียดกันรึไง ขอบตาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง อย่าร้องไห้นะจุนโฮ อย่างร้องตอนนี้…

ฮวางชานซอง ไอ่คนใจร้าย…

.
.
.
.

—————–
เอาละตอนแรกมาเสริฟแบบมึนๆ ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคเวียนนะคะ
เขียนกันหกคน @dbdqb @MmolradaA @ThaihottestA @Yochan_dayo @PaiPOPcoRn @Peachyhachi
พล็อตเรื่องก็แบ็กทูเบสิกจับบ่ายมาอยู่รวมกัน แต่ว่าเรื่องจะดำเนินไปยังไงนั้นไม่อาจรู้ได้
เพราะมันเป็นฟิคเวียน เป็นการเขียนที่ไรท์ทั้งหกไม่ได้คุยเรื่องพล็อตกันก่อน ใครอยากเขียนยังไงเขียนเลย 555

ปล. อยากให้รีดช่วยสลับเลย 1,2,3,4,5,6 ให้หน่อยได้ไหมค่ะเช่น
> 4,5,3,2,6,1 คือตัวเลขที่เป็นเลขประจำของไรท์(ไม่บอกว่าใครเลขอะไร 55)
คือจะเอามาเป็นการเรียงลำดับในการเขียนอะคะว่าใครจะได้เขียนก่อนเขียนหลัง 5555

18 comments
  1. นิรนาม said:

    สงสารจุนโฮ แอบชอบเพื่อนสนิทนี่มันเจ็บปวดนะ ชานเอ้ยยย ชอบเขาก็บอกไปปป อย่าปากแข็ง TT

  2. AatbWoo said:

    555555555555555555555555555555555555555555555555555
    555555555555555555555555555555
    โอ้ยยยยยยยยย ขำ คือแตะละคนโมเม้นจักเต็มมาก ได้ทีใส่ไม่ยั้งจริงๆ กรั่กกกกกก

    แต่ไหงมันชักมาดราม่าเรื่อยๆ ไอ่เราก็ไร้สาระมาเต็มที่ 5555555555555555555555
    โอ้ยขำอ่า 5555555555555555555555555 ไม่รู้จะเม้นยังไงเลย

    เอาเป็นว่า… คนต่อไป… คนแรกอย่าเป็นกูเลยนะคะ 55555555555555555555

    ุ6324512

    ปล.จำไม่ได้ว่าไรท์คนไหนเลขไหนมั่ง 555555555555555555555555

  3. Chocobananaz said:

    หมีค่ะจะมึนไปถึงไหนเนี่ย เค้าโกรธก็เพราะหวงตัวเองน่ะแหละ ยังไม่รู้ตัวอีก สงสารนุ้งจริงๆ

    เป็นฟิคที่น่าติดตามนะคะ อยากจะรู้ว่าคนที่มาเขียนต่อจะพาไปในอารมณ์ไหนต่อไป ยังไงก็สู้ๆนะคะคนแต่งทุกท่าน ^ ^

  4. PK said:

    น่ารักมากเลยย จุนโฮปากแข็งชานก็ยังไม่รู้ใจตัวเองงงง แถมหลุดปากว่าไปอีก หมีเอ้ยยยง้อยาวๆ5555565666656

  5. meow2dataec said:

    ก่อนอื่นใครเขียรบทให้พั่ปู่ห๊ะ 55555555555 คิมผิดอัลไล คุณด้งนั่มาแบบหวานเวอร์ อํ๊คเคก็สไตล์เดิมจิกกัดทำร้ายร่างกายจากชายสูงวัย 5555555 นุ้งอ่าาาาปากแข็ง ชอบเค้าก็บอกไปสิ เห้ออออ เหนื่อยใจ คิมเหนื่อยเด้ เซ็งเด้….

  6. 0326 said:

    หมีชานใจร้ายสุดๆ
    บื้อมากด้วย

  7. นิรนาม said:

    กลิ่นดราม่ามาแต่ไกล ㅠㅠ นุ้งอ่าาา ปากไม่ตรงกับใจแบบนี้ เด๋วก็เจ็บหรอก อิหมียิ่งมึนๆอยู่ รู้นะว่าลึกๆแล้วใจตรงกันทั้งคู่

    ปล.คู่พี่คุณด้งดูราบรื่นดีนะ ค่อยยังชั่ว 555

    ปล.2 สลับเลขขอเป็น 261435

  8. yoke said:

    โอ๊ย!!!เจ็บ!!!! สงสารโฮ ทำไมเมนชั้นแอบรักเขาตลอดเลยยยย….ชานช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยไม่รู้แม้กระทั่งความรู้สึกตัวเอง ขำคิมไม่ไหวละ”คิมเพลียยย..คิมไม่เข้าจายยยย”555 ทำไมรู้สึกหมั่นไส้ด้งแปลกๆ555 *ชอบอ่า ชอบบบบบบบ แอบชอบเค้าแต่พยายามไม่ให้เค้ารู้ พอเห็นเค้าไปสนิทกับคนอื่นก็หวงไม่อยากให้เข้าใกล้ใคร พอเค้าแคร์เค้าทำดีก็แอบเข้าข้างตัวเอง นี่มันเหมือนชีวิตจริงเลยอ่ะชอบ คิคิ* (5♥2♥3♥6♥4♥1)

  9. paipopcorn said:

    ดราม่ามันมาจากใครก็ไม่รู้55555555
    และทิ้งทวนได้….. คนต่อคนต่อไปก็อย่า
    ให้จุนโฮโดนลากไปสำเร็จนะ ต้องแก้ๆ5555
    พี่มาเม้นช้านะทุกคนโทษที พี่หายตัวได้
    รอตอนหน้านะจ๊ะทุกคนนนน
    มาจุ๊บที

  10. นิรนาม said:

    456213 ///สงสารโฮอ่า //เพิ่งเจอกับตัวเองรู้ว่าการแอบรักเพื่อนมันเจ็บยังไง เศร้าแปป

  11. นิรนาม said:

    กรีดร้องง อิหมี อิมึน อิใจร้ายยย โฮลูกบอกไปตรงๆเถอะอิหมีชอบติดต่อยานแม่มากกว่าคนอยู่บ่อยๆ 55555
    ป.ล.*คุณด้งพาฟิน* คึคึ

  12. PraewPraew said:

    สนุกมาก ฮาอะแต่ก็แอบสงสารโฮนะเข้าใจอารมณ์มากอะชอบเขาแต่บอกไม่ได้ฮือออออออ. พี่แทคเจ็บตัวสุดๆโดนตี 5555555555555. พี่คิมข่อยเหนื่อย 555555555555. ภาษาบรรยายดีมากเข้าใจถึงอารมฯ์ชอบคะ. 653241

  13. asarunpas said:

    อ่านแรกๆก็ฮาอยู่แต่ทำไมหลังๆมันดราม่างี้คะไรท์ น้องจะร้องไห้ตามนูนอ ถถถถถถถ ชานก็ช่างผลักไสซะจริง เจ็บ เจ็บแทนนนน เห้ออออ ไอหมีโง่ อยากจะตะโกนดังๆให้ชานซองได้ยิน55555 นี่เรื่องนี้แต่งกัน6คนจริงหรอคะ มันลื่นมากเลยอ่ะ>< สนุกกกก ไรท์อยากให้สลับเลข ก็จะสลับให้นะคะ5555 2,3,6,4,1,5 ❤️❤️❤️ สู้ๆนะคะ

  14. “ผมไม่มีทางชอบรูมเมทตัวเองหรอก..ทุเรศ”..กรี้ดดดดดดดดด!!ไอ้หมีโง่!!ไอ้หมีมึนบ้า!!!กรี้ดดดดดด!!!อยากจะจับมาเชือดจริงๆ!!แกกกกกนี่มัน!!!(อินจัดมาก)โอ้ยยยยย!!ยังจะให้โฮไปบอกชอบพี่คุณอีก!โฮก็อีกคน!ปากแข็งไปมั้ยลูก?!ฮอลลลลล~สงสารโฮสงสารหมี..ฮือออออ..(อินไปนะบางที5555555)..เรียงเลขๆ..6,2,4,3,1,5(ใช้เลขเมนเบาๆคิคิ)

  15. ฮวาง ชานซองเป็นผู้ชายซึงตึงสินะ คือตัวเองก็ชอบโฮล่ะสิทำมาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โธ่เอ๊ย ถ้าวันนึงนุ้งโฮเล่นตัวสุดๆขึ้นมาแกจะรู้สึกอิหมี

    นุ้งโฮเรื่องนี้ยังคงน่ารักน่าชังน่าจุ๊บ จุบุ ๆ (ไม่ได้มีความลำเอียงแฝงอยู่มากมายเลย ๕๕๕) ชอบหมีต้องอดทนนนะลูกหมีมันชอบมึน เพราะงั้นสวย ๆ อ่อย ๆต่อไปค่ะลูก เอ่อะ ไม่ใช่สินะ ๕๕๕ สู้ๆนะนุ้งโฮ

    คุณวูน่ารักนะพูดเลย อิอิ แทคมินแอบฮานะ เรื่องนี้ดูทำตัวสมเป็ฯพี่ใหญ่ดีทั้งคู่เลย ..ใช่ป่ะ ๕๕๕

    ขอบคุณค่ะ

  16. janho^^ said:

    อันยองงงง~ชอบพี่คิมจังเลย 5555555 ชานนี่มึนจริงๆเลย แค่นี้ดูไม่ออกหรือไงกันว่าจุนโฮคิดยังไงแบบนี้มันต้องลงโทษ 5555555 ส่วนจุนโฮทำแบบนี้ไม่ดีนะ ชอบก็บอกว่าชอบไปเลย 55555 เชื่อน้องคนนี้ ถ้าชานบอกไม่ชอบก็จับจูบซะเลยเป็นไง 55555555 สู้ๆนะค่ะไรท์ ^^

  17. akehomie said:

    พึ่วมีโอกาสได้เข้ามาอ่าน น่าสนุกค่ะ เพราะมีไรท์เก่งๆ มาช่วยกันแต่งต่อเนื่องกัน น่าติดตามมาก
    ชอบแนวเรื่องให้ผช.อยู่รวมกัน มันน่ารักดี
    น้องยองนี่เด็กขี้อ้อนจิงๆ อ้อนพี่คุณได้น่ารักมาก ส่วนปู่ก็น๊ะ ไรท์แต่งได้น่ารักมาก กวนกันไปมา กะอพท. คู่กัดกันเรยนะ
    ส่วนชนน.เนี่ยนะ ไม่เคยรู้ใจตัวเองเรย หมีก็ช่างไม่เคยสังเกตุอารัยซักอย่าง ต้องรอให้ อีจุนโฮเหวี่ยง วีน แถมยังมาพูดไม่ดีให้เค้าได้ยินอีกต่างหาก สงสารนุ้งจัง
    แต่ก็เพราะเป็น อีจุนโฮ ชะมะ ถึงปากแข็ง เผลอไปพูดอีกว่าชอบพี่คุณ แล้วทีนี้ ทำงัยล่ะ อิหมีมึน ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องด้วยสิ ว่าจิงๆ แล้ว
    นุงโฮคิดรัยอยู่ เหนื่อยแทนนุ้งเรย

ไม่ต้องใส่ชื่อหรืออีเมล์ ก็เม้นได้น้า